“จงกลับมาหาพระเจ้า”

Notes
Transcript
Sermon Tone Analysis
A
D
F
J
S
Emotion
A
C
T
Language
O
C
E
A
E
Social
“จงกลับมาหาพระเจ้า”
โยเอล 2:12-18
คริสตจักรไคร้สตเชิช กรุงเทพ
วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2023
[Slide 1]
พระเจ้าสถิตกับท่าน [และสถิตกับท่านด้วย]
พี่น้องที่รักครับ ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงพระเมตตา ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงรวบรวมข้าพระองค์ทั้งหลายมาที่นี่เพื่อเริ่มต้นเทศกาลมหาพรต ขอพระองค์ทรงน้อมนำจิตใจของเราทั้งหลายให้กลับมาหาพระองค์ด้วยใจถ่อม ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเปิดเผยและสำแดงความจริงในค่ำวันนี้ ให้ข้าพระองค์ทั้งหลายมีหัวใจที่จะเชื่อฟังและยอมจำนนตามความจริงที่ทรงสำแดง เพื่อที่ข้าพระองค์ทั้งหลายจะเป็นไทในพระคริสต์ อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
[Slide 2]
"จงจำไว้ว่าเจ้าเป็นผงคลีดิน และ เจ้าจะกลับเป็นผงคลีดินดังเดิม"
พี่น้องที่รัก วันพุธรับเถ้า ถือเป็นวันเริ่มต้นเทศกาลมหาพรต หรือ Lent 40 วัน เริ่มต้นด้วยขี้เถ้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ความตาย ความโศกเศร้า และการกลับใจใหม่ ระเบียบพิธีพุธรับเถ้านี้ สอนเราให้ถ่อมใจลงต่อพระเจ้า สอนเราให้เห็นความจริงของชีวิตของเรา ความอ่อนแอในความบาป และความต้องการพระผู้ไถ่ในชีวิตของเรา เพื่อที่เราจะกลับมาหาพระคริสต์ด้วยการสำนึกผิด กลับใจใหม่ และเข้ามาหาพระองค์ด้วยการคุกเข่าลงอธิษฐาน ด้วยชีวิตที่ยอมจำนน และเชื่อฟัง
วันพุธรับเถ้าเป็นวันเริ่มต้นการเดินทางอย่างตั้งใจ ที่จะเข้าสู่เทศกาลมหาพรต 40 วัน เพื่อเตรียมชีวิต เตรียมจิตใจเรา เป็นช่วงเวลาที่เราได้เข้ามาสำรวจชีวิต ความคิด จิตใจและท่าทีภายในของเรา ก่อนที่จะเข้าสู่สัปดาห์ศักดิ์สิทธ์ วันศุกร์ประเสริฐ และ เข้าสู่การเฉลิมฉลองอีสเตอร์ วันอาทิตย์เฉลิมฉลองพระคริสต์เป็นขึ้นจากความตาย
พระคำพระเจ้าที่เราได้ฟังไปในวันนี้ จากผู้เผยพระวจนะโยเอล ที่คุณเอ๋ได้อ่านไปเมื่อสักครู่นี้
[Slide 3]
12พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “ถึงกระนั้นก็ดี
บัดนี้ พวกเจ้าจงกลับมาหาเราด้วยสุดใจ
ด้วยการอดอาหาร การร้องไห้ และการโอดครวญ
13จงฉีกใจของพวกเจ้า ไม่ใช่ฉีกเสื้อของเจ้า”
จงกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน
เพราะว่าพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและพระกรุณา
พระองค์กริ้วช้าและบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง
และเปลี่ยนพระทัยไม่ลงโทษ
พระคำของพระเจ้าผ่านผู้เผยพระวจนะโยเอลในตอนนี้ ได้สรุปความหมายของ เทศกาลมหาพรตไว้เป็นอย่างดีครับ เทศกาลมหาพรต หรือ Lent คือช่วงเวลา ที่เราได้กลับมาหาพระเจ้า กลับมามีความสัมพันธ์กับพระเจ้า พระเจ้าปรารถนาที่จะมีความสัมพันธ์กับเรา
ความสัมพันธ์นี้เป็นจริงสำหรับเราทุกคน ในความสัมพันธ์ของเรานั้น มีอยู่สองทางคือ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด กับ ความสัมพันธ์ที่ห่างเหินกัน ความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าก็เช่นเดียวกัน ใกล้ชิดพระเจ้า กับ ห่างไกลจากพระเจ้าเหลือเกิน
ในความสัมพันธ์ของเรา กับคนที่ครั้งหนึ่งเราเคยใกล้ชิดสนิมสนมกันมาก เพราะว่าเราได้ใช้เวลากับคนที่เราสนใจ แต่ถ้ามีความจำเป็นบางอย่างที่ต้องห่างออกไป เราแทบจะไม่ได้ใช้เวลากับคนๆนั้นเท่าไหร่ ความสัมพันธ์เรากับคนๆก็จะค่อยๆ ห่างเหินออกไป จริงมั้ยครับ
ความจริงนี้ก็เป็นความจริง กับความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้าเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราละเลยที่จะใช้เวลากับพระเจ้าในทุกๆวันอย่างตั้งใจ
เราเคยรู้สึกมั้ยครับ จะมีช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่า เราห่างๆ จากพระเจ้า ผมคิดว่าเราทุกคนต่างเคยมีประสบการณ์นี้ แน่นอน รวมทั้งตัวผมด้วย ครับ
พระคำพระเจ้าบอกกับเราเสมอ พระสัญญาของพระเจ้า พระเจ้าสถิตกับเรา ว่า นี่แนะ เราจะอยู่กับเจ้าเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค ดังนั้นความจริงแล้ว เราต่างหาก เป็นคนเลือกเองว่า ชีวิตของเราจะใกล้ชิดพระเจ้า หรือ จะออกห่างจากพระเจ้า เราเป็นคนเลือกเอง จากการใช้ชีวิตของเราในแต่ละวัน
และแน่นอน การที่เรารู้สึกว่าเราห่างไกลจากพระเจ้า ตัดขาดจากพระเจ้าก็เป็นผลจากการเลือกของเราเอง ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม เราเป็นคนเลือกเองที่จะให้ความสำคัญกับสิ่งอื่น มากกว่าพระเจ้า บางที เราที่กำลังนั่งอยู่ที่นี่บางคนคิดว่า เราก็มาคริสตจักรนะ มากลุ่มเซลบ้าง เราก็โอเครอยู่นะ แต่วันนี้ ผมอยากให้เราลองไตร่ตรองดูว่า ความสัมพันธ์เรากับพระเจ้าใกล้ชิดสนิมสนมจริงๆ อย่างที่ควรจะเป็นอยู่หรือเปล่า หรือเราให้สิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเรา ภาระงานในแต่ละวันที่ทำงาน ดูแลบ้าน ดูแลครอบครัว ดูแลลูกๆ หรือแม้กระทั่งงานรับใช้ในคริสตจักร เข้ามาแทนที่เวลาที่เราควรจะใช้กับพระเจ้ามั้ย
ให้สิ่งเหล่านี้ เข้ามาแทรกอยู่ระหว่างความสัมพันธ์เรากับพระเจ้า
ผมเชื่อว่า พระเจ้าปรารถนาที่จะให้เราได้มีความสัมพันธ์ที่ติดสนิทและลึกซึ้งกับพระเจ้ามากยิ่งขึ้นทุกๆวันเมื่อเราเดินไปกับพระเจ้า แต่คำถามสำคัญที่เราต้องถามตัวเราเองวันนี้ว่า เราต้องการรู้สึกพระเจ้ามากขึ้นมั้ยครับ หรือ
สี่ประการ ที่เราอาจจะออกห่างจากพระเจ้า ในชีวิตของเรา
(1) มั่นใจในตัวเองมากเกินไป ไม่จำเป็นที่ต้องพึ่งพาพระเจ้า
1โครินธ์ 10:12
12เพราะเหตุนี้คนที่คิดว่าตัวเองมั่นคงดีแล้ว ก็จงระวังไม่ให้ล้มลง
สุภาษิต 16:18
18ความจองหองมาก่อนการถูกทำลาย
และใจผยองก็มาก่อนการล้ม
ปฐมกาล 3 เมื่อมนุษย์มองที่ผล ก็น่ากิน และปรารถนาจะเป็นเหมือนพระเจ้า
มหาพรต การภาวนาอธิษฐาน คือการถ่อมใจลง ยอมรับในความจำกัดของเรา และขอพึ่งพาพระเจ้า
(2) ชีวิตที่หมดความร้อนรนในพระเจ้า ชีวิตที่เกียจคร้านในพระเจ้า
อาทิตย์แล้วอาทิตย์เหล่า ความอ่อนล้า เราขาดวินัยในการเข้าเฝ้าพระเจ้า เราอยู่ไปวันๆ โดยไม่ได้ตั้งใจที่จะอยู่เพื่อพระเจ้า ตามแผนการพระเจ้าในชีวิตของเรา เรายอมแพ้ต่อความต้องการของโลกนี้ และเนื้อหนังของตนเอง
ในคืนที่พระเยซูกำลังจะถูกอายัด พระเยซูให้สาวกอธิษฐานกับพระองค์ แต่สาวกหลับเมื่อพระเยซู
มัทธิว 26: 41
41ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังและอธิษฐานเพื่อจะไม่ถูกทดลอง จิตวิญญาณพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนกำลัง
วินัยฝ่ายวิญญาณ การอดอาหารอธิษฐาน การถวายทรัพย์ ช่วยเหลือคนยากจน การประกาศข่าวประเสริฐ ช่วยให้เรามีชัยชนะเหนือการเกียจคร้าน
(3) กลัว เกรงใจมนุษย์ มากกว่าพระเจ้า
กังวลว่าคนรอบข้างจะปฎิเสธเราเพราะความเชื่อของเรา
มาระโก 15:54 ในคืนที่พระเยซูถูกอายัด ถูกจับไปไตร่สวน เปโตรติดตามพระเยซูห่างๆ
เปโตรติดตามพระคริสต์ห่างๆ ไม่อยากให้เพื่อนๆรู้ว่าเราเป็นคริสเตียน เราอยากเป็นเหมือนคนอื่นๆ ยากมาก ขาข้างหนึ่งอยู่ในโลก ขาอีกข้างอยู่ในพระเจ้า
เรากลัวเกรงใจคน มากกว่าพระเจ้า บางที เราก็ไม่กล้าเตือนพี่น้องที่กำลังอยู่ในความบาป ด้วยความรัก เพราะเรากลัวว่าเขาจะไม่เข้าใจ
มาระโก 8:38
38ใครมีความละอายเพราะเราและคำสอนของเรา ในยุคที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าและอธรรมนี้ บุตรมนุษย์ก็จะมีความละอายเพราะคนนั้นด้วย เมื่อพระองค์จะเสด็จมาด้วยพระรัศมีของพระบิดาพร้อมกับพวกทูตสวรรค์บริสุทธิ์”
เทศกาลมหาพรต นี้ การกลับมามี ชีวิตที่ยอมจำนนกับพระเจ้า เชื่อฟังพระเจ้า
(4) รักความสะดวกสบาย มากกว่ารักพระเจ้า
ติดตามพระเยซูได้ ตราบใดก็ตามที่ไม่ลำบาก ไม่ต้องจ่ายราคา
เป็นคริสเตียนได้นะ ไปโบส์ถได้ มานมัสการพระเจ้าได้ ตราบเท่าที่ยังไม่จ่ายราคามากเกินไป สิ่งนี้สะท้อนออกมาภายนอก ให้เห็นชัดเจน การให้เวลาในการรับใช้พระเจ้า ความรู้ความสามารถของเรา การถวายทรัพย์ การมานมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์ การเข้ากลุ่มเซล
ความสะดวกสบายนี้รวมถึง ความสบายใจ เราเลือกที่จะทำในสิ่งที่สบายใจ ถ้าเราพบสิ่งใดที่รู้สึกลำบากใจ เราก็ไม่เอาละ ทิ้ง
ขอบคุณพระเจ้านะครับ ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ที่เรากำลังติดหล่มอยู่ในการเดินทางกับพระเจ้า รักความสะดวกสบาย ติดตามพระเจ้าเมื่อยังสบายๆ แต่ถ้าเริ่มลำบากเมื่อไหร่ก็ไม่เอา
กลัว เกรงใจมนุษย์มากกว่าพระเจ้า ชีวิตที่เกียจคร้านในงานรับใช้พระเจ้า หมดความร้อนรน เอาจริงเอาจังในการรับใช้พระเจ้า และ ชีวิตที่เย่อหยิ่ง ไม่ต้องพึ่งพาพระเจ้า มั่นใจในตนเอง
พระเจ้ายังคงเลือกที่จะตอบสนองเราด้วยพระคุณ และใจที่อดทนนาน
เพราะหากปราศจากพระคุณพระเจ้า และใจที่อดทนนานแล้ว เราทุกคนที่นี่ล้วนต้องพินาศอย่างแน่นอน รวมถึงตัวผมด้วย
สิ่งเดียวที่เราทำได้ และเป็นความปรารถนาของพระเจ้าคือ ให้เรากลับใจใหม่ และกลับมาหาพระองค์ เหมือนอย่างบุตรน้อยหลงหาย ที่กลับมาหาคุณพ่อ นั้นคือ ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงปรารถนา
และนั้นคือ หัวใจของเทศกาลมหาพรต 40 วัน ที่แท้จริง ไม่ใช่แค่เราเข้ามาถืออดอาหาร อธิษฐานและ ถวายทรัพย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเยซูสอน แต่มากกว่านั้นที่พระเยซูต้องการ ในมัทธิว 6 ที่เราได้ฟังไป
หัวใจของเทศกาลมหาพรต 40 วัน ที่แท้จริง ช่วงเวลาที่เราได้ทบทวนตนเองในการเดินกับพระเจ้า และ กลับใจจากความผิดพลาดล้มเหลว สี่ประการ นี้ แล้ว กลับมาหาพระเจ้า กลับมาหาพระเจ้าผู้ทรงเปื่ยมด้วยพระคุณและพระเมตตา
12พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “ถึงกระนั้นก็ดี
บัดนี้ พวกเจ้าจงกลับมาหาเราด้วยสุดใจ
ด้วยการอดอาหาร การร้องไห้ และการโอดครวญ
13จงฉีกใจของพวกเจ้า ไม่ใช่ฉีกเสื้อของเจ้า”
จงกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน
เพราะว่าพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและพระกรุณา
พระองค์กริ้วช้าและบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง
และเปลี่ยนพระทัยไม่ลงโทษ
วันนี้เราห่างไกลจากพระเจ้ามั้ย เราต้องกลับเข้ามาใกล้ชิดพระเจ้า และให้เรากลับมาเริ่มต้นใหม่กับพระเจ้าครับ
[Slide 4]
คำถามสำหรับกลุ่มย่อยเพื่อการพูดคุยกัน:
(1) ในสี่ประการนี้ มีสิ่งใดหรือไม่ที่พระเจ้าเปิดเผยสำแดง ให้เรากลับใจใหม่ สารภาพกับพระเจ้าและขอพระเจ้าช่วยเราให้สามารถมีชัยชนะได้โดยพึ่งพาพระคริสต์
(2) ในช่วงเทศกาลมหาพรต 40 วันในปีนี้ เราตั้งใจจะทำสิ่งใด เป็นการสำแดงออกภายนอกเป็นการกระทำ เพื่อสะท้อนจากความปรารถนาภายในที่เราจะกลับมาติดสนิทกับพระเจ้า
